IV Therapy

IV Therapy คืออะไร

“IV Therapy ย่อมาจาก Intravenous Therapy” หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า “Vitamin Drip”และ “วิตามินบ าบัด” นั้น
หมายถึงการให้วิตามินหรือสารน ้าผ่านทางหลอดเลือดด าเข้าสู่ร่างกายซึ่งก าลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเดี๋ยวนี้คน
ส่วนใหญ่ต้องการความรวดเร็ว ปลอดภัย เห็นผลไว และใช้เวลาในกระบวนการท าไม่นาน การท า IV Therapy เป็นการให้
วิตามินที่ได้รับความนิยม

IV Therapy แตกต่างการให้สารอาหาร วิตามิน หรือเกลือแร่ในรูปแบบอื่นๆ เช่น การรับประทาน การฉีดเข้ากล้ามเนื้อ การอม
ใต้ลิ้น รวมถึงการทาครีมเพื่อให้ดูดซึมผ่านทางผิวหนัง ในการท า IV Therapy นี้จะสามารถน าวิตามินและเกลือแร่เข้าสู่หลอด
เลือดและส่งผลในการบ ารุงร่างกายได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย การดูดซึม หรือถูกคัดกรองผ่านด่านใดๆ หลังจาก
นั้นจึงจะถูกขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระโดยไม่มีการสะสมหรือตกค้างเป็นอันตรายอยู่ในร่างกาย

ด้วยประโยชน์ดังกล่าวจึงมีการปรุงสูตรขึ้นหลายรูปแบบเพื่อให้เหมาะสมกับการดูแลสุขภาพของแต่ละบุคคล

ข้อดีของ IV Therapy

  1. ช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
  2. ลดอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ไม่สดใส
  3. ร่างการดูดซึมวิตามิน อย่างรวดเร็วถึง 100%
  4. ไม่มีผลข้างเคียง กับระบบทางเดินอาหาร
  5. แก้ อาการเมาค้าง ปวดหัว Jet-lag

IV Therapy เหมาะกับใคร?

จริงๆแล้ว คอร์สวิตามินเข้าเส้นใช้ได้กับคนไข้ที่มีอาการหรือปัญหาสุขภาพได้หลากหลายมากค่ะ จากรายงานทางการแพทย์
คอร์สวิตามินเข้าเส้นมีส่วนช่วยลดอาการหรือป้องกันโรคต่างๆเหล่านี้

  • ไข้หวัด
  • เจ็ตแล็ก (Jet lag)
  • โรคภูมิแพ้ หืดหอบ (Asthma)
  • ไมเกรน (Migraines)
  • อาการอ่อนล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome) หรือโรคที่มีอาการเหนื่อยง่าย และการฟื้นตัวก็นานกว่าเดิม
  • โรคไซนัส (Sinus)
  • อาการเจ็บอก(Angina Pectoris)
  • ต่อมไทรอยด์ทำงานไม่ปกติ (ฮอร์โมนไทรอยด์สูง/ต่ำ
  • ลดรอยหมองคล้ำที่ผิว
  • ความจำเสื่อม
  • พาร์กินสัน
  • ปวดศีรษะไมเกรน
  • วัยทองชายและหญิง
  • ไฟโบรมัยอัลเจีย (Fibromyalgia) หรือโรคที่ท าให้มีอาการเจ็บปวดตามกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย มีผลต่อความจ าและสมาธิ
  • โรคกล้ามเนื้อหดเกร็ง (Muscle Spasm) หรือการที่กล้ามเนื้อหดตัวทันที โดยที่เราไม่สามารถบังคับได้
  • โรคติดเชื้อที่ทางเดินหายใจ (Respiratory Tract Infections)
  • ป้องกันความเสื่อมฟื้นฟูสุขภาพ Anti-aging
  • ล้างท่อเลือดจากคราบคลอเลสตอรอล (Low Density Lipoprotein: LDL) เพื่อให้การไหลเวียนโลหิตไปยังส่วนต่างๆในร่างกายดี ป้องกันและบำบัดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบเส้นเลือดสมองตีบแตกตัน และช่วยให้หายชาปลายมือปลายเท้าในผู้ป่วยเบาหวานเรื้อรัง
  • ช่วยการควบคุมน้ำหนัก เบาหวาน ไขมันในเลือด

นอกจากนี้ คนส่วนใหญ่ยังนิยมเข้าคอร์สวิตามินเข้าเส้นเพื่อเพิ่มพละก าลังก่อนและหลังเดินทางไกล หรือจากการเล่น
กีฬาหนักและหลังภาระกิจหนักเครียดๆอ่อนล้า เป็นต้น

การบำบัดควรทำเป็นคอร์ส สัปดาห์ละ1-2ครั้งขึ้นกับปัญหา

ซึ่งที่ Amitalia Clinic เรามีวิตามินถึง 3 สูตร เพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวในแต่ละคน

สูตรที่ 1 “ GLOW WHIRE SKIN “ : เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งเสีย กร้าน ต้องการให้ผิวเนียนนุ่นน่่าสัมผัส ฟื้นฟูได้ลึกถึงระดับเซลล์ผิว

สูตรที่ 2 “ CYSTAL WHITE SKIN ” : เหมาพกับคนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ อยากให้ผิวดูกระจ่างสว่างใส อมชมพู
ด้วยวิตามินเข้มข้นหลายชนิด

สูตรที่ 3 “ PREMIUM DIAMOND WHITE SKIN (MUST TRY) ” : สูตรลับฉบับดาราเซเลป เน้นผิวออร่า สว่างใส นุ่มลื่น และช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ด้วยตัวยาพรีเมี่ยมนำเข้าจากประเทศเยอรมัน

ข้อปฏิบัติตัวก่อนและหลังทำ IV Therapy

การปฎิบัติตัวก่อนทำ IV Therapy

  1. ควรพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชม. เนื่องจากหลังทำคีเลชั่นอาจมีอาการอ่อนเพลียซึ่งเป็นผลจากการขับสารพิษออกจากร่างกาย
  2. ควรงดดื่ม alcohol ทุกชนิด ก่อนมาทำ คีเลชั่น อย่างน้อย 1-2 วัน
  3. ถ้าหากไม่สบาย เป็นไข้ ท้องเสีย ควรแจ้งแพทย์หรือพยาบาลก่อนทุกครั้งก่อนทำคีเลชั่น
  4. ควรรับประทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนทำคีเลชั่น เพราะระหว่างการทำอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง

ข้อแนะนำหลังทำ IV Therapy

  • ควรดื่มน้ำหลังทำปริมาณมาก คือให้ดื่มน้ำหนึ่งออนซ์ต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม
  • งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะและหลังการทำ
  • งดสูบบุหรี่ หลังทำเนื่องจากการสูบบุหรี่จะทำให้ผลการบำบัดด้อยประสิทธิภาพลง
  • ควรทำอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผลชัดเจน เเนะนำอาทิคย์ละครั้ง หรือแพทย์แนะนำ